หลวงพ่อเงินขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่เคยโอ้อวดว่าท่านเคร่งหรือมีสมณะศักดิ์เป็นอะไร แต่มีบุคคลบางคนเท่านั้นที่ทราบว่าท่านได้รับสมณะศักดิ์ ท่านเรืองวิชาอาคม หรือสำเร็จญาณใด ท่านไม่คุย แต่ท่านสามารถล่วงรู้ได้ล่วงหน้าถึงวาระจิตของคน และสัตว์ เหตุการณ์ที่เป็นไป แม้แต่ทรัพย์ ใต้ดินที่มีอยู่ที่ใด อย่างเช่นเมื่อคราว สมเด็จพระมหาสณะเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จไปที่วัด ไม่มีใครรู้จัก แต่ชาวบ้านที่นั่งอยู่ที่วัดอดแปลกใจไม่ได้ว่า ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยเห็นหลวงพ่อเงิน ออกปูเสื่อและออกไปรับด้วยตัวของท่านเอง นี้แสดงว่าท่านสามารถล่วงรู้ถึงฐานะของบุคคลที่มาหาท่าน มีเรื่องขำ ตอนนี้ว่า หลวงพ่อเงิน ท่านสั่งให้พระในวัดทำที่สรงน้ำและที่บังคน พระไม่ทราบถึงคำราชาศัพท์วิ่งกันให้วุ่นไปหมด บางองค์ไปทำโรงพิธีสวดพระชัยมงคลคาถา บางองค์ไปทำโรงต้มน้ำร้อน จนหลวงพ่อเงินบอกว่า ทำส้วมไงล่ะ ถึงได้ขำกันใหญ่ ท่านยังแสดงความศักดิ์สิทธิ์ให้เห็น ครั้งเมื่อหลวงพ่อพระครูพิบูลธรรมเวท (เปรื่อง ฐิตปุญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม เจ้าคณะอำเภอโพทะเล ได้รับการถวายเครื่องเงินเก่าๆ จากชาวบ้าน จึงคิด จะสร้างรูปหลวงพ่อเงินไว้บูชา ก็ให้ช่างมาเทรูปหล่อ ช่างหล่อรูปไม่ได้สักที เบ้าแตกหมดเหลือเพียงเบ้าเดียว หลวงพ่อพระครูพิบูลธรรมเวท จึงได้ไปจุดธูปบอกหลวงพ่อเงินโดยอธิษฐานขอเพียง ๓ รูป คือ ช่างหล่อ ๑ องค์ ทายก ๑ องค์ คนหล่อ ๑ องค์ ปรากฏว่าได้รูปชัดสวยงามมาก พอดีขณะนั้นมีคนมาที่วัดก็อยากได้ เพราะเงินที่หล่อยังเหลืออยู่ จึงได้อธิษฐานต่อหลวงพ่อเงิน ปรากฏว่าหล่อไม่ได้สักองค์ หลายครั้งหลายหน ถึงกับถูกเศษเงินในเบ้าหลอมกระเด็นใส่หน้าตาพองจึงต้องเลิก นี่เป็นที่เชื่อถือได้แน่นอนว่าท่านศักดิ์สิทธิ์จริง คือให้เท่าที่ขอเท่านั้น ตรงกับอุปนิสัยของหลวงพ่อเมื่อยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ถ้าบอกให้เป็นให้ ถ้าไม่ให้ขอให้ใจขาดก็ปราศจากผล ตามประวัติของท่าน พระเครื่องตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ไม่ค่อยมีมากนัก เนื่องจากท่านไม่คิดที่จะสร้างให้มากมาย เพราะท่านได้เคยพูดว่า 'ของคงกระพันชาตรี' เป็นของที่เจ็บตัว แม้จะยิงไม่เข้าฟันไม่เข้า ตีไม่แตก สู้เมตตามหานิยมไม่ได้ เริ่มแรกที่จะมีพระรูปหล่อของท่าน ก็เนื่องจากมีลูกมอญคนหนึ่ง ตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้วัด อายุประมาณ ๗-๘ ขวบ ท่านชอบมาก เพราะเรียกใช้ได้คล่อง วันหนึ่ง ท่านได้ปั้นดิน เป็นรูปพระขนาดเล็ก รูปหน้าจั่วให้เด็กคนนี้ไป แล้วพูดว่าเอาไปลองให้พ่อตีที เด็กคนนั้น ก็จริงเหมือนกัน พอถึงบ้านก็ให้พ่อตีทันที แต่พ่อของเด็กนั้นตีมิเคยถูกเลยจนอ่อนใจ ตั้งแต่นั้นมาบ้านใดมีสุนัขดุท่านก็ใช้เด็กคนนี้ไปทุกทีปรากฏว่าถูกสุนัข กลุ้มรุมกัดแต่ไม่เคยระคายผิวของเด็กนั้นเลย ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้าน ที่รู้ข่าว ก็พากันมาให้ท่านทำให้ มีทองคำบ้าง เงินบ้าง ทองแดงบ้าง พอดีท่านคิดจะหล่อรูปเหมือนเท่าตัวของท่าน (รูปหล่อจำลองเท่าองค์จริงที่อยู่จนถึงปัจจุนี้) ก็จ้างช่างมาหล่อรูปเหมือนของท่าน ปรากฏว่า หล่อเสร็จแล้ว เงินค่าจ้างช่างไม่พอ ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร ท่านให้หล่อรูปท่านเป็นพระเครื่องขึ้นมา ๒ แบบ คือ