"ตำโขยง"ส้มตำการรันตีโดยแชมป์รางวัลพระราชทาน

พบกันอีก.กับคอลัมน์พาชิมในหนังสือพิมพ์ “บ้านเมือง” รายวัน และทุกครั้งที่พบกัน “แม่ลิ้นจี่” เจ้าเก่าคนเดิมเป็นต้องสรรหาเมนูอร้อยย..อร่อย..จากร้านอาหารทั่วทุกสารทิศมาแนะนำให้แฟนคอลัมน์ได้พากันแวะไปลิ้มลอง...!

ช่วงนี้ก็ย่างกรายเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายปลายเดือนมีนาคม เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะได้ฉลองเทศกาลสงกรานต์หรือวันปีใหม่ของไทยกันอีกครั้ง อีกทั้งระยะนี้อากาศค่อนข้างจะร้อนอบอ้าวจนแทบจะทานทน ไม่ว่าจะเหลียวมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่เปลวแดดระยิบยับจนพาลจะเป็นลม เมนูจานเด็ดประจำฉบับนี้ “แม่ลิ้นจี่” ก็เลยจะขอถือโอกาสพาท่านผู้อ่านหลีกลี้หนีเปลวแดดที่แผดร้อนของเมืองกรุง ไปหาเมนูอร่อยที่สุดแสนจะแซ่บหลายนั่งเปิปกันแบบง่ายๆ ในห้องแอร์เย็นฉ่ำกันดูบ้าง ซึ่งร้านที่จะแนะนำกันในวันนี้ก็คงจะเป็นที่ถูกปากถูกใจของคุณสาวๆ ที่ชอบรับประทานอาหารรสชาติจัดจ้านกันเป็นพิเศษ ซึ่งร้านที่ “แม่ลิ้นจี่” กำลังกล่าวถึงอยู่นี้เขามีชื่อว่าร้าน “ตำโขยง”

 

  

                ที่ร้านนี้เขาจะตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างอาคารด้านทิศตะวันตก (WEST) ของธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ สี่แยกรัชโยธิน บรรยากาศภายในของร้านนี้เขาจะไม่เหมือนร้านอาหารอีสานทั่วๆ ไป ซึ่งที่นี่เขาจะติดแอร์เย็นฉ่ำพร้อมโซฟาน่านั่งในบรรยากาศสุดแสนจะโมเดิร์นในสไตล์แบบยุโรป ซึ่ง “คุณสิรินรี อริวรรณา-คุณเสถียร อมรเกษมวงศ์ และคุณอัทธนีย์ อารีย์” ซึ่งเป็นเจ้าของร้านได้บอกเล่าให้ฟังว่า ร้าน “ตำโขยง” เปิดบริการมาได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งมีบริการอาหารทั้งไทย อีสาน ยุโรป ซึ่งจะมีให้เลือกสั่งมากกว่า 100 ชนิดในเมนู นอกจากนี้ก็ยังมี “เบเกอรี่โฮมเมด” สารพัดอย่างให้เราได้เลือกชิม

 

 

                แต่ที่ขึ้นชื่อและเป็นเมนูพระเอกที่ไม่ว่าใครมาเป็นต้องสั่งมาลิ้มลองของร้านนี้ก็คือ เมนูสารพัดตำกว่า 40 ชนิด ซึ่งเป็นสูตรเด็ดของทางร้านที่ไม่มีใครเหมือน โดยมีมือตำซึ่งมีดีกรีเป็นถึงแชมป์โล่ห์พระราชทาน จากการประกวดทำส้มตำที่วังสราญรมย์คือ “คุณสัญญา สาระบุตร” หรือ “คุณกี้” มาเป็นผู้ปรุงแต่งรสชาติให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง ซึ่งที่นี่เขาจะเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ สด สะอาด นำมาปรุงเป็นเมนูสารพัดตำซึ่งมีรสชาติที่คนภาคกลางรับประทานได้อย่างสนิทใจ และมีรสแซ่บจัดจ้านจนผู้คนต้องพากันยกโขยงมาลองชิม ส่วนเมนูจานแรกที่ “แม่ลิ้นจี่” จะแนะนำให้สั่งมาลิ้มลองกันในวันนี้ก็มี

 

 

                    ตำโขยง..เมนูจานพระเอกของร้าน เขาจะใช้มะละกอสับซอยมาเส้นพร้อมกับขนมจีน ใส่เครื่องปรุงมีทั้งพริกขี้หนูสด มะเขือเปราะ มะเขือขื่น ผักชีและถั่วฝักยาวซอยละเอียด หมูยอ ปลาเนื้ออ่อนแห้ง น้ำปลาร้าสุก ตำคลุกเคล้าจนเข้ากันปรุงรสออกเผ็ดนำ เปรี้ยว และเค็ม เสิร์ฟใส่จานเคียงข้างด้วยกากหมูเจียว ถั่วงอกดิบ และใบสะระแหน่ ความอร่อยอยู่ที่สารพัดเครื่องปรุงที่มีรสแซ่บซ่านจนเหงื่อซึม สั่งมาทานคู่กับข้าวเหนียวนึ่งจากเชียงใหม่รสเนียนนุ่ม ในราคาจานละ 100 บาท

 

  

                    ตำหัวปลี..จานนี้ถ้าไม่สั่งจะเสียดาย เขาจะนำหัวปลีดิบมาซอยเป็นเส้นเล็กๆ ใส่เครื่องมาสารพัดมีทั้ง มะเขือเทศ มะเขือเปราะ กุ้งแห้ง พริกขี้หนูสด สัปปะรด ปูเค็ม ถั่วลิสงคั่ว น้ำปลาร้าสุก ตำคลุกเคล้าทุกอย่างจนเข้ากัน ปรุงรสออกเค็มนำ เปรี้ยว และเผ็ดกำลังดี ความอร่อยอยู่ที่หัวปลีดิบเคี้ยวกินได้กรอบมัน บวกกับรสจัดจ้านของเครื่องปรุงหอมกลิ่นปลาร้า ในราคาจานละ 70 บาท

 

  

                    ตำลาวสาวใต้..เป็นตำสูตรเฉพาะของที่นี่ เขาจะใช้มะละกอดิบสับซอย นำไปตำคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงมีทั้ง พริกขี้หนูสด หอยแครงลวก มะเขือเปราะ นำปลาร้าต้มสุก คลุกเคล้าจนเข้ากันปรุงรสออกเผ็ดนำ เปรี้ยว และเค็ม ตักใส่จานโรยหน้าด้วยสะตอสด เคียงข้างจานด้วยกากหมูเจียว ถั่วงอกดิบ ใบสะระแหน่ ความอร่อยอยู่ที่ส้มตำรสจัดจ้าน สะตอกรอบมันที่เข้ากันกับส้มตำเหมือนปี่กับขลุ่ย บวกกับกากหมูเจียวเคี้ยวกินได้กรอบกรุบสนุกปาก ในราคาจานละ 100 บาท

 

  

                    ตำลาวสาวเหนือ..เขากลัวสาวเหนือจะน้อยหน้าเลยต้องมีสูตรนี้ โดยเขาจะนำมะละกอที่สับซอยมาเป็นเส้น พร้อมกับเส้นหมี่ขาวลวกสุก ใส่ครกเติมด้วยสารพัดเครื่องปรุงมี หมูยอ ปลาแห้ง พริกขี้หนูสด มะเขือเปราะ มะเขือขื่น ผักชีฝรั่งหั่นฝอย คลุกเคล้าทุกอย่างจนเข้ากับปรุงรสออกเปรี้ยวนำ เค็ม และเผ็ด ตักส้มตำ กากหมูเจียว ถั่วงอกดิบ ใบสะระแหน่ ใส่ปากเคี้ยวกินได้อร่อยล้ำเกินคำบรรยาย ในราคาจานละ 100 บาท

 

  

                    แกงผักหวานเห็ดเผาะไข่มดแดง..เป็นเมนูอีสานที่ควรจะสั่งมาลิ้มลอง เขาจะนำยอดผักหวานสดอ่อน นำไปต้มกับน้ำใบย่านางใส่เห็ดเผาะ พริกสด ปลาแห้ง น้ำปลาร้า ไข่มดแดง ปรุงรสออกเค็มและเผ็ดเล็กน้อย ความอร่อยอยู่ที่ยอดผักสดหวาน บวกกับเห็ดเผาะเคี้ยวกินได้กรอบกรุบ ตักน้ำแกงรสจัดจ้านซดกินหอมกลิ่นปลาแห้งผสมกลิ่นปลาร้ายวนยั่วน้ำลาย ในราคาชามละ 120 บาท

 

  

                นอกจากนี้ก็ยังอาหารที่น่าลิ้มลองอีกมากมายที่สาธยายกันไม่หมดในที่นี้ อาทิเช่น ตำแอ็ปเปิ้ล ตำสาวเวียงจันทร์ ตำข้าวโพดไข่เค็ม ตำสามแต๋ว ตำโคราช เมี่ยงคะน้าปลาทู ลาบปลาดุกกรอบ สปาเก็ตตี้ทะเล บลูเบอร์รี่เค้ก ฯลฯ ถูกปากถูกใจอาหารจานไหนเชิญเปิดเมนูเลือกสั่งกันเองได้ “ร้านตำโขยง” จะเปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.30 น. สะดวกกันเมื่อไรก็ขอเชิญแวะเวียนมาเยี่ยมชิมกันได้ นอกจากนี้ที่ร้านนี้เขามีบริการรับออกงานนอกสถานที่ โทร.สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2617-6077 และ 08-9492-5689

  

                    สำหรับวันนี้คงต้องขอแนะนำกันแต่เพียงแค่นี้ แล้วพบกับ “แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 12” ได้ใหม่ในสัปดาห์ต่อไปนะคะ..! (ค้นหาข้อมูลร้านอาหารย้อนหลังได้ใน www.naachim.com)